ตามมาติด ๆ ชูวิทย์ สันธนะ พักเลิกต่อยมานัดดวลเดือดสนามเตะ และทั้งคู่จะเชียร์บอลโลก 2022 ทีมไหนนั้น ตามมาดูไปพร้อม ๆ กับเราเลย
ชูวิทย์ สันธนะ ขอพักเรื่องต่อยสักประเดี๋ยว!!
นัดลงสนามดวลเดือด ชูวิทย์ เชียร์ทีมบราซิล แถมยังกล่าวอีกว่า อังกฤษแพ้มาตลอด และบอกว่าแข่งในบ้านแข่งได้ แต่พอแข่งนอกบ้านแพ้ตลอด แล้วตนเองยังได้กล่าวว่าเชียร์ทีมบราซิล เพราะว่าบราซิลเป็นแชมป์โลกมาหลายสมัย แล้วก็ผู้หญิงสาว ฮ่าฮ่าฮ่า!! และบราซิลยังมีหลายสิ่งหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจในบ้านเมือง การเล่นฟุตบอล สไตล์แซมบ้าสายบุก มีลีลาที่ไม่เหมือนใคร เพราะฉะนั้นเขาจึงชอบบราซิลสไตล์ของอเมริกาใต้ จะไม่เหมือนอังกฤษ ไม่เหมือนทางยุโรป
แล้ว สันธนะ หล่ะเชียร์ทีมเดียวกันไหม ? โดยเจ้าตัวได้กล่าวว่าตนได้ เชียร์ทีมบอลอังกฤษ เพราะว่าความสัมพันธ์ความใกล้ชิด โดยครอบครัวของเขาผูกพันกลับประเทศอังกฤษมาก และก็เป็นความหวังตั้งแต่เด็ก ๆ ที่ฟุตบอลโลกเคยเป็นแชมป์สมัยเดียว ตั้งแต่เขายังเด็กอยู่เลย และในปีนี้สันธนะมองว่าประเทศอังกฤษเขาได้เปิดมาอย่างดี ในเกมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นทีมของคนรุ่นใหม่ เขาจึงเชื่อว่าตัวของทีมผู้เล่นของทีมประเทศอังกฤษเอง จะพาสู่ความสำเร็จและความสมหวัง และมีโอกาสที่จะถึงรอบชิงชนะเลิศ
และงานนี้ทีมไหนจะชนะต้องรอติดตามก็ต่อไป แต่ตอนนี้เราขอพาไปรู้จักกับประวัติของทั้ง 2 ทีมที่ทั้ง ชูวิทย์ และ สันธนะ ได้เชียร์ มาเป็นยังไงกันบ้างตามมาดูกันเลย…
ทีมฟุตบอลบราซิล
ในฟุตบอลโลก 1958 บราซิลถูกจับสลากอยู่กลุ่มเดียวกับอังกฤษ, สหภาพโซเวียต และออสเตรีย พวกเขาเปิดสนามด้วยการเอาชนะออสเตรีย 3 ต่อ 0 ต่อด้วยการเสมออังกฤษ 0 ต่อ 0 และในนัดสุดท้ายของกลุ่ม พวกเขาแข่งขันด้วยความกดดันในช่วง 3 นาทีแรก (ซึ่ง 3 นาทีนี้ถูกเรียกว่าเป็น “สามนาทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล”) ก่อนที่วาว่าจะยิงประตูขึ้นนำ และจบลงด้วยชัยชนะ 2 ต่อ 0 ของบราซิล ต่อมา เปเล่ทำประตูชัยช่วยให้ทีมเอาชนะเวลส์ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนที่ทีมจะไปเอาชนะฝรั่งเศสในรอบรองชนะเลิศ 5 ต่อ 2 และในรอบชิงชนะเลิศ บราซิลเอาชนะสวีเดนไปได้ 5 ต่อ 2 ทำให้พวกเขาชนะเลิศฟุตบอลโลกสมัยแรกและเป็นชาติแรกที่ชนะเลิศฟุตบอลโลกนอกทวีปของตน
ในฟุตบอลโลก 1962 บราซิลคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 โดยมีการิงชาเป็นผู้เล่นตัวหลัก แม้ว่าเปเล่จะได้รับบาดเจ็บในนัดที่สองของกลุ่มที่พบกับเชโกสโลวาเกียจนไม่สามารถลงเล่นในนัดที่เหลือได้ก็ตาม
บราซิลชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่ 3 ที่เม็กซิโกในปี คริสต์ศักราช 1970 โดยผู้เล่นชุดนั้นถูกขนานนามว่าเป็นผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งประกอบไปด้วยเปเล่ที่ลงเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย, กัปตันทีม การ์ลุส อัลเบร์ตู ตูร์เรซ, แจร์ซิญโญ, ตอสเตา, แกร์สัน และรีเวลีนู แม้ว่าการิงชาจะเลิกเล่นไปแล้ว แต่ทีมก็ยังมีขุมกำลังที่แข็งแกร่ง พวกเขาชนะรวดทั้ง 6 นัด ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มที่เอาชนะเชโกสโลวาเกีย, อังกฤษ และโรมาเนีย ต่อด้วยการเอาชนะเปรู, อุรุกวัย และอิตาลีในรอบแพ้คัดออก แจร์ซิญโญเป็นผู้เล่นที่ทำประตูมากเป็นอันดับที่สองในรายการนั้นที่ 7 ประตู และเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่ทำประตูครบทุกนัดในฟุตบอลโลก ในขณะเปเล่ทำได้ 4 ประตู บราซิลได้ชูถ้วยรางวัลชูลส์รีเมต์เป็นครั้งที่ 3 ทำให้พวกเขาเป็นชาติแรกที่ได้เก็บถ้วยรางวัลนี้เป็นการถาวร
หลังจากที่บราซิลไม่ได้ชนะเลิศ หรือเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกมาเป็นเวลานานถึง 24 ปี บราซิลได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐ โดยทีมชาติชุดนั้นมีแนวรุกอย่างโรมารีอูและเบแบตู, กองกลางอย่างกัปตันดุงกา, ผู้รักษาประตู เกลาดีโอ ทัฟฟาเรล และกองหลังอย่างฌอร์ฌิญญู พวกเขาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้เป็นสมัยที่ 4 โดยทำผลงานอันโดดเด่นด้วยการเอาชนะสหรัฐ 1 ต่อ 0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เอาชนะเนเธอร์แลนด์ 3 ต่อ 2 ในรอบก่อนรองชนะเลิศที่แดลลัส และเอาชนะสวีเดน 1 ต่อ 0 ในรอบรองชนะเลิศที่โรสโบวล์ในแพซาดีนา ก่อนที่จะเข้าไปชิงชนะเลิศกับอิตาลีที่แพซาดีนาเช่นเดียวกัน เกมนัดชิงชนะเลิศจบลงด้วยผลเสมอไร้ประตู ทำให้ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ ซึ่งทีมฟุตบอลบราซิลเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้หลังจากที่โรแบร์โต บัจโจ คนยิงสุดท้ายของอิตาลี ยิงลูกโทษไม่เข้า
และในฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพร่วม บราซิลซึ่งนำทัพโดยสามประสานกองหน้า “3R” (โรนัลโด, รีวัลดู และรอนัลดีนโย) สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 5 ได้สำเร็จ
ทีมฟุตบอลอังกฤษ
อังกฤษถือเป็นชาติที่มีประวัติของกีฬาฟุตบอลเก่าแก่ที่สุดทีมหนึ่ง โดยจัดตั้งทีมชาติขึ้นมาพร้อม ๆ กับสมาคมฟุตบอล หรือเอฟเอ และพร้อม ๆ กับสกอตแลนด์ ในวันที่ 5 มีนาคม คริสต์ศักราช 1870 จากนั้นวันที่ 30 พฤศจิกายน คริสต์ศักราช 1872 ตัวแทนทีมชาติสกอตแลนด์จัดแข่งขันกับอังกฤษ ที่แฮมิลตันเครสเซนท์ ถือเป็นการแข่งขันระดับนานาชาตินัดแรก เพราะทั้ง 2 ทีมถูกเลือก และมีการดำเนินกิจการแยกกันโดยอิสระ ไม่ได้ทำงานเป็นสมาคมเดียวกัน จากนั้นตลอด 40 ปีถัดมา อังกฤษจะจัดการแข่งขันนัดพิเศษ “บริติชโฮมแชมเปียนชิป” ระหว่างชาติในสหราชอาณาจักรสี่ชาติ คือ อังกฤษ, สกอตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์
และแรกเริ่มเลยนั้น อังกฤษไม่มีสนามเหย้าถาวร อังกฤษเข้าเป็นสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ในปี คริสต์ศักราช 1906 และได้ลงเล่นแข่งขันในระดับนานาชาติกับประเทศอื่น นอกเหนือจากในรายการบริติชโฮมแชมเปียนชิป เป็นครั้งแรก ในการแข่งขันรายการของภูมิภาคยุโรปกลาง ในปี คริสต์ศักราช 1908 จากนั้นในปี คริสต์ศักราช 1923 มีการเปิดใช้สนามกีฬาเวมบลีย์ ที่เป็นสนามเหย้าของอังกฤษมาจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ดีอังกฤษเคยมีปัญหากับฟีฟ่าและถอนตัวไปในปี คริสต์ศักราช 1928 ก่อนกลับเข้าร่วมอีกครั้งในปี คริสต์ศักราช 1946 ทำให้ไม่ได้เล่นฟุตบอลโลก จนกระทั่งปี คริสต์ศักราช 1950 ที่อังกฤษแพ้แก่สหรัฐอเมริกา 0 ต่อ 1 ถือเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่พ่ายแพ้อย่างน่าอับอายในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ
และจนถึงปัจจุบัน อังกฤษได้แชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้วทั้งหมดหนึ่งครั้ง คือ ฟุตบอลโลก 1966 ที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพเอง และไม่เคยได้แชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปเลย มีผลงานดีที่สุดคือ ได้อันดับ 2 ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020
เว็บเดิมพันออนไลน์อันดับ 1 เว็บคาสิโนออนไลน์ UFABET88 เว็บที่ดีที่สุด การันตีได้จากยอดจำนวนยูสหรือนักพนันที่มีมากมาย ทั้งจากต่างประเทศและในประเทศไทย เป็นคาสิโนก็ถ่ายทอดสดมาจากคาสิโนโดยตรง รวมไปถึงเกมเดิมพันกีฬาออนไลน์ ที่มีทั้งฟุตบอลที่มีรองรับ ทุกคู่ทุกลีคแบบครบวงจร และเว็บของเรายังมีการบริการที่ครบวงจร สามารถทำการฝาก-ถอนเงินได้แบบไม่มีขั้นต่ำ ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง สมัครสมาชิกกับเราวันนี้รับโบนัสไปเลยทันที 50%